Monday, February 24, 2014

What is your English Grammar Skill? ระดับความรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

Le'ts test your English skill! (มาทดสอบความรู้กันๆ)

There is a total of THREE steps below (โดยมีทั้งหมด 3 ขั้นตอนดังนี้)
a) Tell me if this question is WRIGHT OR WRONG 
บอกว่าประโยคนี้ ถูก หรือ ผิด

b) If the a) answer is WRONG, please correct it for me. If it is correct, you can skip this. 
ถ้าตอบว่าผิด จากข้อ a ให้แก้ให้ถูกต้อง

c) If you can explain why this question is wrong, please explain. 
หากเข้าใจว่าทำไมถึงผิด ให้อธิบายว่าเพราะอะไรถึงผิด

Note: Some of the questions might be right as it is.
หมายเหตุ: บางประโยคอาจไม่ได้ผิดนะจ๊ะ เอามาลวงเล่นๆ ฮึฮึ

1) I runs a marathon.
a)
b)
c)

2) You look sleepy.
a)
b)
c)

3) She do not dance.
a)
b)
c)

4) Does you leave today?
a)
b)
c)

5) We don't stay here.
a)
b)
c)

6) It come with rice.
a)
b)
c)

7) Is your mom work at the bank?
a)
b)
c)

8) I will eating at McDonald tonight with my friends.
a)
b)
c)

9) Did you ate breakfast?
a)
b)
c)

10) How much does it cost?
a)
b)
c)

และเดี๋ยวมาตรวจกันนะจ๊ะ 




Sunday, February 23, 2014

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อว่า BE

สวัสดีค่ะทุกๆ คน ดิฉันชื่อว่า BE นะคะ เรามาทำความรู้จักกันหน่อยมั๊ยคะ ก่อนที่จะไม่ชอบขี้หน้าฉัน

ถามว่าทำไมต้องรู้จักฉันด้วย?
ก้อถึงมันจะง่ายแสนง่าย รุ้สึกจะเป็นหัวข้อแรกๆ ที่เราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ หลังจากที่ท่อง a b c ได้กันเลยมั้ง แต่เรามักจะเรียนแบบ ท่องจำ แต่ขาดความเข้าใจมัน แล้วพอเราไปเรียนเรื่องอื่นๆ ปุ๊บ ทีนี้แหล่ะ งงกันทีเดียว เพราะมันจะตีกันในหัวกับพวก Verb to do (อันนี้ค่อยสอนทีหลังนะ)



เริ่มกันเลย เอาพื้นฐานโครตๆ
ถาม Be คืออะไร?
ตอบ ฉันเกิดมา ฉันชื่อว่า BE นะ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีการแต่งเติมใดๆ ทั้งสิ้น
แต่เนื่องจากภาษาอังกฤษหน่ะซิ เค้าให้ความสำคัญในเรื่องของเวลา ดังนั้น ฉันแทบจะไม่เหลือความเป็นตัวเอง ใครๆ ก้อไม่รู้จักฉัน และหลงกับตัวฉันในรูปร่างหน้าตาอื่นๆ ฉันหมายความว่ายังไงหน่ะหรอ?

ก็พอเค้าเอาฉันไปพูดถึงในอดีต ฉันก็กลายมาเป็น WAS หรือไม่ก็ WERE เฉยเลย ฉันจะถูกใช้บ่อยๆ ใน Tense ของอดีต อย่างเช่น Past Simple หรือไม่ก็ Past Continuous

พอเค้าพูดถึงฉันในการวางแผนอะไรต่างๆ ในอนาคต เค้ามักจะนึกถึงฉันใน Tense ของ Future Simple, ไม่ก็ Future Continuous เค้าจะเอาฉันไปติดไว้กับ Will กลายเป็น WILL BE หน่ะ
ฉันไม่ค่อยโดนใช้บ่อยเท่าไหร่หรอกนะ ในเรื่องของอนาคต

ถามว่าที่ฉันโดนใช้อยุ่บ่อยที่สุดๆๆๆ เลยก็คงจะเป็นพวก Present tense ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Present Simple, หรือ Present Continuous อ่ะ ยังจำโครงสร้างของพวก tenses เหล่านี้กันได้ใช่ม๊าาา
หน้าตาของฉัน พวกเธอคุ้นแน่ๆ ก็คือ IS, AM, ARE นั่นเอง จำกันได้ใช่มั๊ยหล่ะ ว่าใครจะใช้คำไหนของฉันกันอ่ะ ขึ้นอยู่กับประธานนะ ไป ลองทบทวนกันเอาเองนะอันนี้ ฉันเริ่มขี้เกียจจะพิมแล้วว 555

อันนี้แปลกสุด ฉันหน่ะ สามารถอยุ่มาวันหนึ่งกลายเป็น BEEN ได้ด้วยนะ คนอ่ะ มักจะงงๆ กันเลยทีเดียว พอเจอกันแบบนี้ ฉันคิดว่า เป็นเพราะว่าเค้าไปจับฉันใส่อยู่ในโครงสร้างของพวก PERFECT tense ซึ่งไม่ว่าจะเป็น Present, Past or Future ฉันมักจะแฝงตัวอยู่ในโครงสร้างของเค้า แล้วเนื่องจากนัง tenses พวกนี้ มันเข้าใจยากกว่า tense อื่นๆ คนเลยแอบเกลียดฉันไปด้วย เพราะว่าไม่เข้าใจฉันหน่ะซิ ข้อสอบก็ชอบเอาฉันไปใส่ลวงๆ ให้พวก นักเรียน งงๆ ทีนี้ ใครๆก้อไม่ค่อยรักฉันเลย เศร๊าเศร้า
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความหมายของฉันในภาษาไทยคืออะไรหน่ะหรอ คนเค้าแปลฉันกันว่า "เป็น, อยู่, คือ" ค่ะ
ก็ถูกของเค้านะคะ ฉันอ่ะ เป็นได้ตั้งหลายๆๆ ความหมายแหน่ะ คนถึงใช้ฉันบ่อย


ฉันจะยกตัวอย่างให้ฟัง
I am a teacher.
Mike is my math teacher.
I will be a singer one day.
Wai, Bow, and Neung were Uttaradit Darunee students before.

เวลาพวกเธอต้องการจะบอกว่าใครเป็นอะไร อย่าลืมเอาฉันไปใช้นะ กรณีนี้ ฉันแปลว่า คือ หรือเป็น

I will be at the hospital this evening.
I am at home right now.
Lisa was at the party last night.
Chicago is in Illinois.
The chairs are in the room.

กรณีนี้ฉันแปลว่า อยุ่นะ "เห็นมั๊ย ฉันมีตั้งหลายเวลาแหน่ะ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต (แต่ฉันยังไงก็คือฉัน ซึ่งแปลว่า เป็น)"

1)จริงๆแล้วหน่ะ ฉันก็เป็นคำกริยาคำหนึ่ง ทั่วๆไปเหมือนคำกริยาคำอื่นนะ
2) แต่ที่ฉันพิเศษไปกว่าใครนั่นก็คือ!!!! เค้าเรียกว่าฉันเป็นคำกริยาช่วยด้วยนะ
ฉันมีสองหน้าที่!!!! 

อันนี้สำคัญมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะเวลาที่เค้าต้องการเอาฉันไปตั้งคำถาม หรือเปลี่ยนเป็นประโยคปฏิเสธ ฉันสามารถทำหน้าที่นั่นได้เอง ฉันจะยกตัวอย่างให้ฟังนะ

ประโยคบอกเล่าของฉันคือ I am at home right now.
พอฉันเป็นปฏิเสธ เค้าก็สามารถเติม not ลองไปข้างหลังฉันได้ทันที กลายเป็น I am NOT at home right now.
และถ้าเค้าอยากจะเปลี่ยนเป็นประโยคคำถาม ฉันก็แค่สลับที่กับประธานของประโยค กลายเป็น Am I at home right now?

ในขณะที่คำกริยาอื่นๆหน่ะหรออออ เค้าทำไม่ด๊ายยแบบฉันนนน พวกนั้น เค้าต้องไปขอคำกริยาช่วยอื่นๆ ซึ่งที่โดนบ่อยเวอร์ๆๆ ก้อคือ DO หรือ VERB TO DO หน่ะซิ เอาไว้วันหลังฉันจะเล่าให้ฟังนะ เกี่ยวกับพ่อหนุ่มคนนี้ วันนี้พอก่อนละกัน ไม่มีการบ้านให้นะ ใครสงสัยอะไร ถามเลยๆๆๆ




การแต่งประโยคบอกเล่าง่ายๆ: Affirmative Sentence:

เริ่มต้นด้วยเรียนการสร้างประโยคแบบง่ายๆๆ กันดีกว่า 
("รู้นะว่าเคยเรียนว่ากันแล้ว แต่มาลองทบทวนกันหน่อยดีกว่าาา")

Affirmative Sentence: การสร้างประโยคบอกเล่าในเชิงบวก (ไม่ได้เป็นประโยคปฏิเสธ หรือประโยคคำถามนั่นเอง)

"จำกันได้มั๊ย ว่าเราเคยเรียนกันมาตั้งหลาย Tense แหน่ะ วันนี้ขอเบาๆ ละกัน เนื่องจากเป็นวันแรก
เรากันที่แบบ Simple ที่สุดเนอะ"

1) Present Simple (Subject + V1)
ขึ้นอยู่กับว่า ประธานว่าจะเติม s/es หรือไม่เติม

ตัวอย่างประโยค
a) My name is Jeep. 
b) I live in Chiang Mai, Thailand. 
c) Tina works at the bank.
d) My mom eats rice every day.

2) Past Simple (Subject + V2) 
กฎของ Verb ที่เป็นในรูปของอดีต  (เค้าเรียกมันว่า V2 นะ)
1. บางครั้งก้อเติม -ed เช่น walked
2. บางคำก็เปลี่ยนรูปไปเลย เช่น ate 
3. บางครั้งก็ไม่เปลี่ยนอะไรเลย เช่น read, hit 

ตัวอย่างประโยค
a) My name was Lula.
b) I lived in Illinois, United States.
c) Tina worked at the mall.
d) My mom ate noodle yesterday.

3) Future Simple (Subject + will + Main Verb)
Main Verb คือ คำกริยาที่ไม่มีการเติม s/es ไม่ว่าประธานจะเป็นใครก็ตาม

ตัวอย่างประโยค
a) I will change my name to Jenny.
b) I will live in London next year.
c) Tina will work at the zoo next month.
d) My mom will eat sushi tomorrow.

HOMEWORK:
ไหนๆ ลองมาแต่งกันให้ดูหน่อยซิ ขอสัก 2 ประโยค ในแต่ละตัวอย่างนะ (Present, Past, Future - SIMPLE) เป็นทั้งหมด 6 ประโยคนะ
ผิดถูกไม่เป็นไรนะ เด๋วช่วยๆกันแก้ มีคำถามอะไรถามได้นะ


Copy คำตรงนี้ ใส่ในคอมเม้นเวลาทำการบ้านนะ
----------------------------------------------------------------------

1) Present Simple
1a)
2b)

1) Past Simple
1a)
2b)

1) Future Simple
1a)
2b)

Your name:
Question (ถ้ามี):
----------------------------------------------------------------------
จำตัวอย่างโครตสร้าง 3 Tenses นี้ให้ดีนะ เพราะเราจะใช้มันบ่อยมากๆๆๆๆๆ และจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างประโยคอื่นๆ ต่อไป ในการสนทนา 
อย่างที่เห็นว่า โครงสร้างมันไม่ยาก หรือซับซ้อน ฉะนั้น อย่ามาอ้างน้าาา ว่าจำไม่ได้ เพราะเราจะไม่เชื่อ! 555